1.1 กาพย์เห่ชมเครื่องคาว
แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ
พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส
หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกไห้หวนแสวง
มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤาจักเปรียบเทียบทันขวัญ
เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์
ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น
ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเฮ็ล
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำ ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทร์คิดแนบนอน
เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องหรือโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนาง
1.2 กาพย์เห่ชมผลไม้
ผลชิดแช่อิ่มโอ้ เอมใจ
หอมชื่นกลืนหวานใน อกชู้
รื่นรื่นรสรมย์ใด ฤาดุจ
นี้แม่
หวานเลิศเหลือรู้รู้ แต่เนื้อนงพาล
ผลชิดแช่อิ่มอบ หอมตลบล้ำเหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปาน หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ
ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
คิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น
ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแคล้วจากจำเป็น
จากช้ำน้ำตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
หมากปางนางปอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา
หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร
ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวิลลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน
พลับจีนจักด้วยมีด ทำประณีตน้ำตาลกวน
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ
น้อยหน่านำเมล็ดออก ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์
มือใครไหนจักทัน เทียบเทียมที่ฝีมือนาง
ผลเกดพิเศษสด โอชารสล้ำเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบาง สางเกศเส้นขนเม่นสอย
ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเมล็ดพลอย
สุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย
ทุเรียนเจียนตองปู เนื้อดีดูเหลืองเรืองพราย
เหมือนสีฉวีกาย สายสวาทพี่ที่คู่คิด
ลางสาดแสวงเนื้อหอม ผลงอมงอมรสหวานสนิท
กลืนพลางทางเพ่งพิศ คิดยามสารทยาตรามา
ผลเงาะไม่งามแงะ มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
หวนเห็นเช่นรจนา จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม
สละสำแลงผล คิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม นามสละมละเมตตา
1.3 กาพย์เห่ชมเครื่องหวาน
สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม
เป็นนัยนำวาที สมรแม่
มาแม่
แถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพียบแอ้อกอร
สังขยาหน้าไข่ตั้ง ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
ลำเจียกชื่อขนม นึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย โหยไห้หาบุหงางาม
มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง
ลุดตี่นี้น่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
ขนมจีบเจ้าจีบห่อ งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งฉีกทวาย ชายพกจีบกลีบแนบเนียน
รสรักยักลำนำ ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
ทองหยิบทิพย์เทียบทัด สามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดม ก้มหน้าเมิลเขินขวยใจ
ขนมผิงผิงผ่าวร้อน เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกล เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้งทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง
ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบัง แต่ลำพังสองต่อสอง
งามจริงจ่ามงกุฎ ใส่ชื่อดุจมงกุฎทอง
เรียนร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล
บัวลอยเล่ห์บัวงาม คิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคล สถนนุชดุจปทุม
ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไบคลุม หุ้มห่มม่วงดวงพุดตาน
ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามยาวมาลย์ เย็บชุนใช้ไหมทองจีน
1.4 บทเห่เจ้าเซ็น
หวนเห็นหีบหมากเจ้า จัดเจียน
มาแม่
พลูจีบต่อยอดเนียน น่าเคี้ยว
กลี่กล่องกระวานเขียน มือญี่-
ปุ่นเฮย
บุหรี่ใส่กล่องเงี้ยว ลอบให้เหลือหาญ
หมากเจียนเจ้างามปลอด พลูต่อยอดน่าเอ็นดู
กระวานอีกกานพลู บุหรี่ให้ใจเหลือหาญ
เช็ดหน้าชุบน้ำอบ หอมตรลบดอกดวงมาลย์
บังอรซ่อนใส่พาน ส่งมาให้ไม่เว้นวัน
เดือนสามสำเภามา มีใบชาชาติจุหลัน
ถ้ำคู่อยู่เคียงกัน กับให้เห็นเป็นปริศนา
เดือนห้าหน้าร้อนจัด เจ้าให้พัดด้ามติ้วมา
เรื่องร้อนผ่อนเพทนา เพื่อพนิดาไม่ละเลย
คำนึงถึงเดือนหก ทั่วทายกตามโคมเคย
งามสุดนุชพี่เอย ได้เห็นกันวันบูชา
เดือนแปดวันเพ็ญเจ้า ย่อมไปเข้าพระพรรษา
รับศีลอย่างสีกา ด้วยเจตนาจำนงใน
เห็นนวลครวญครุ่นคิด กำเริบจิตวาบหวั่นไหว
ไปได้ก็จะไป โอบเอวอุ้มพุ่มพวงพยุง
ยามฝนดลเดือนสิบ เริ่มข้าวทิพย์เจ้าจะหุง
หาของต้องการปรุง มุ่งใจจิตประดิดประดอย
เดือนสิบเอ็ดเด็ดแดดิ้น ยามกฐินทุกวันคอย
เห็นเรือไล่ถี่ซอย กลอยกลับเห็นเช่นแรกสม
คิดรูปน่ารักเหลือ คิดนุ่มเนื้อน่าเชยชม
คิดเนตรขำค้อนคม ผมหอมชื่นรื่นรสคนธ์
ฤดูเดือนสิบสอง หญิงชายซ้องแซ่อึงอล
ขึ้นล่องท่องเที่ยวชล ยลผ้าป่าราตรีกาล
เซ็งแซ่เสียงเภรี ปานเรียมตีทรวงประหาร
พาทย์ฆ้องก้องกังวาน สารดุจน้องร้องเรียกเรียม
ทุกลำลอบเล็งลักษณ์ ไม่พบพักตร์เจ้างามเสงี่ยม
ดูไหนไม่เทียบเทียม ร่วมรักเรียมรูปร่างชัด
เดือนยี่พิธีพญา โยนชิงช้าชนแออัด
สาวหนุ่มกำหนดนัด ทัศนาแห่แลหากัน
เรียมเตร่ตรวจทุกช่อง ไม่เห็นน้องเนื้อนวลจันทร์
ว้าหวิ้นดิ้นแดยัน หันเห็นท่าชิงช้าโยน
เชี่ยวชาญกระดานต้น โยกเยกยลคนหกโหน
ถือท้ายกายอ่อนโอน โดนคิดได้ดั่งใจถวิล
แรมค่ำร่ำไห้หวน แห่อิศวรย่ำยามยิน
เคยเห็นเป็นอาจิณ ช้าหงส์เห่เล่ห์ลมพราหมณ์
โอมอวดสวดสำเนียง ไม่เหมือนเสียงนางนงราม
ล้ำเลิศเฉิดโฉมงาม ยามเย็นเช้าเจ้าอ่านฉันท์
อ่อนหวานสารเสนาะ เพราะอักษรกลอนพาดพัน
แจ้วเจื้อยใจจาบัลย์ ทุกวันหวังฟังเสียงสมร
ห้าค่ำย่ำยามปลาย แห่นารายณ์เร่งอาวรณ์
อยู่ใกล้จะใคร่จร ไปรับเจ้าเคล้าคลอมา
เดือนแรมเหมือนเรียมค้าง เรื่องรักร้างแรมขนิษฐา
แรมรสแรมพจนา แรมเห็นหน้านิ่งนอนแรม
ดลเดือนมะหะหร่ำเจ้า เซ็นปี
ใหม่แม่
มะหง่นประปรานทวี เทวศไห้
ห่อนเห็นมิ่งมารศรี เสมอชีพ
มานา
เรียมลูบอกไล้ไล้ คู่ข้อนทรวงเซ็น
ดลเดือนเรียกมะหะหร่ำ ขึ้นสองค่ำแขกตั้งการ
เจ้าเซ็นสิบวันวาร ประหารอกฟกฟูมนัยน์
มะหะหร่ำเรียมคอยเคร่า ไม่เห็นเจ้าเศร้าเสียใจ
ลูบอกโอ้อาลัย ลาลศล้ำกำสรวลเซ็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น