วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

บรรณานุกรม


บรรณานุกรม


กลุ่มสาระภาษาไทย. จุดประสงค์ของการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน[ออนไลน์].  เข้าถึง  
                 ได้จาก www.thaisatitpatumwan.ac.th.เมื่อวันที่  ๒๘  มกราคม  ๒๕๕๕.
ก้อยกุ้ง.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จwww.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒   
                 กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จากwww.sk131.net. เมื่อวันที่๒๘
         มกราคม  ๒๕๕๕.
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.wikipedia.urg.  เมื่อ
                 วันที่  ๔  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
กุ๊กฝึกหัด.  แกงคั่ว[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.v2.zmeal.com. เมื่อวันที่๑๒
          กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
แกงไตปลา.   [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.tamptech.ac.th.  เมื่อวันที่  ๑๒
                  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
แกงเทโพ[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.flash-mini.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ขนมจีบไทย[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.maeban.co.th.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ข้าวหมกไก่[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.foodtravel.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
จุดประสงค์ของการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก         
www.thaisatitpatumwan.ac.th./otherเมื่อวันที่  ๔  กุมภาพันธ์  
                    ๒๕๕๕.
เฉลิมวงศ์  เจริญสุข.  บรรณาธิการ.  (๒๕๓๗).  ขนมไทยของหวาน-ของว่าง๑๐๘ชนิดทำกินได้
ทำขายรวย.กรุงเทพฯ : ส่งเสริมอาชีพOTOP.
ชนม์  สวัสดิ์, ม.ร.ว.  (๒๕๔๑).  พระราชประวัติ๙รัชกาล๑๕บรมราชินี.  พิมพ์ครั้งที่๒.  กรุงเทพ :
       พิทยากร.
ชลดา  เรืองรักษ์ลิขิต.  (๒๕๕๒).  กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่นิราศแรมสร้าง.  กรุงเทพ :
       จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดวงพร  ทีปะปาล.  (๒๕๔๙).  พระราชประวัติ๙กษัตริย์ไทย.  นนทบุรี : อำนวยสาส์น.




ตับเหล็ก[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์, เจ้าฟ้า และ พุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระ.  (๒๕๑๔).
กาพย์เห่เรือ.  กรุงเทพฯ : รุ่งวัฒนา.
น้ำยาปลา[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.foodtravel.com.  เมื่อวันที่  ๑๒ 
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
นิดา  หงส์สวัสดิ์.  (๒๕๕๓).  ขนมไทย.  กรุงเทพฯ : แสงแดด.
เนื่อง  นิลรัตน์, ม.ล.  หรุ่ม[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จากwww.thaifolk.com.  เมื่อวันที่
                   ๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
บุญศรี  ไพรัตน์. (๒๕๕๒). ความรู้รอบตัวฉบับรอบรู้๒๕๕๒.นนทบุรี : พัฒนาศึกษา.
พล่าเนื้อ[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
มัสมั่น.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.thaifoodtoworld.com.  เมื่อวันที่
๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
 “ยำใหญ่[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.flash-mini.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
รังนกนึ่ง[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ล่าเตียง[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.foodtravel.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ลุดตี่[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.matichon.co.th.  เมื่อวันที่  ๑๒  กุมภาพันธ์
                   ๒๕๕๕.
ลูกจากลอยแก้ว.[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.leleleatthaifood.blogspot.
            com.  เมื่อวันที่  ๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ลูกชิดเชื่อม[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก www.variety.teenee.com.  เมื่อวันที่ 
        ๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
วารี  อัมไพวรรณ.  (๒๕๓๗).  พระราชประวัติพระมหากษัตริยาธิราชและพระบรมราชินีใน
                  ราชวงศ์จักรี.   พิมพ์ครั้งที่๒.  กรุงเทพฯ :ภัทรินทร์.



 “วิธีปลอกมะปราง”[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.posting.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                   กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
ศึกษาธิการ, กระทรวง.  (๒๕๑๔).แบบเรียนวรรณคดีไทยเล่ม๒ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๒. พิมพ์ครั้งที่
                   ๑๑.  กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา.
ศึกษาธิการ, กระทรวง.  (๒๕๑๕).แบบเรียนวรรณคดีไทยเล่ม๒ชั้นมะยมศึกษาปีที่๒.  พิมพ์ครั้งที่
                  ๑๑.  กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา.
ศึกษาธิการ, กระทรวง.  (๒๕๕๐).  วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๑.  กรุงเทพฯ : กระทรวง
                  ศึกษาธิการ.
ศึกษาธิการ, กระทรวง.  (๒๕๕๓).  วรรณคดีวิจักษ์มัธยมศึกษาปีที่๑.  (๒๕๕๓).  กรุงเทพฯ :
                  กระทรวงศึกษิการ.
สมบัติ  พลายน้อย.  (๒๕๑๔).  พระราชประวัติ๙รัชกาลและบางกอกในอดีต.  กรุงเทพฯ : วัชรินทร์
                  การพิมพ์.
สุรพงษ์  จันลิ้ม.  (๒๕๕๑).  ความรู้รอบตัวฉบับทันโลก.  (๒๕๕๑).  กรุงเทพฯ : เสริมวิทย์
                 บรรณาการ.
แสร้งว่า[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.temptech.ac.th.  เมื่อวันที่  ๑๒ 
                 กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
หมูแนม[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒
                 กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
อ่อม[ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก  www.papamenu.com.  เมื่อวันที่  ๑๒ 
                 กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕.
อาหารในวรรณคดีกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน.  (๒๕๒๑). พิมพ์ครั้งที่๒.  กรุงเทพ : วงวรรณกรรม.



บทสรุป


บทสรุป
                รายงานการเขียนเรียงความขั้นสูงเรื่องการศึกษากรรมวิธีในการทำอาหารที่ปรากฎอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ นี้เป็นกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานซึ่งเป็นร้อยกรองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นบทร้อยกรองที่นำอาหารคาวหวาน มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวได้อย่างลงตัวโดยใช้ภาษาที่สละสลวยและยังเป็นบทร้อยกรองที่บรรยายถึงคุณลักษณะ ของอาหารและเครื่องปรุงได้อย่างกระชับและได้ใจความทำให้จินตนาการเห็นรูป รส และกลิ่นเหมือนมีอาหารเหล่านั้นมาวางอยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ยังเป็นบทร้อยกรองที่คุณค่าทางวรรณศิลป์อีกด้วยซึ่งประเด็นความคิดที่ศึกษาสอดคล้องกับนักวิชาการหลายท่านอาทิ ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต (๒๕๕๒): ๔๐– ๓๓๗ ที่ได้กล่าวไว้และปรากฎเป็นหลักฐานยืนยันในหนังสือกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่นิราศแรมสร้าง จากการศึกษาพบว่าอาหารคาวหวานหลายอย่างที่ปรากฎอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน เป็นอาหารที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบันเพราะใช้เวลาในการทำนานพอสมควร  และจากการศึกษาค้นคว้าพบประเด็นที่น่าสนใจควรค่าแก่การศึกษาในโอกาสต่อไปคืออาหารไทยหลายอย่างกำลังจะสูญหายไป เพราะมีขั้นตอนในการทำค่อนข้างจะซับซ้อน ดังนั้นเราคนไทยสมควรที่จะอนุรักษ์อาหารไทยเหล่านั้นไว้ให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเป็นมรดกสืบทอดต่อไป อย่าให้เหลือแต่เพียงชื่ออาหารเท่านั้นแต่ยังสามารถหารับประทานได้ด้วย

ฝอยทอง


ฝอยทอง

ส่วนผสม
    ไข่ไก่(ฟองละ 50 กรัม)                     4 ฟอง
    ไข่เป็ด(ฟองละ 50 กรัม)                   7 ฟอง
    ไข่น้ำค้าง                                               2-3 ช้อนโต๊ะ

น้ำเชื่อม
    น้ำตาลทราย                                          5 ถ้วย
    น้ำหรือน้ำลอยดอกมะลิ                     5 ถ้วย
    ใบเตยมัดเป็นปม                                 3-4ใบ

อุปกรณ์เฉพาะ
    กระทะทองเบอร์ 14, ผ้าขาวบาง, พายไม้, กรวยสเตนเลสหรือกรวยทองเหลืองหรือกรวยใบตอง, ตะเกียบหรือไม้ปลายแหลม

ลักษณะที่ดี
    เส้นฝอยทองเล็กกลม เส้นนุ่มเป้นเงา ชุ่มน้ำเชื่อม และเส้นเรียงกันเป็นแพสวย
    ฝอยทองมีรสหวานไม่มาก สีเหลืองสดหรือสีเหลืองส้มสดตามสีของไข่แดง มีกลิ่นหอม ไม่มีกลิ่นคาวไข่

ข้อน่ารู้
   ใช้ไข่ใหม่ ไข่แดงจะมีความข้นเหนียวดี โรยได้เส้นฝอยทองกลมสวย
    ไข่น้ำค้าง คือไข่ขาวใสที่ติดค้างอยู่กับเปลือกไข่ด้านส่วนป้านของไข่ไก่และไข่เป็ด
    โรยฝอยทองตรงลางกระทะ เพราะเวลาน้ำเชื่อมเดือดจะดันเส้นฝอยทองไปข้างกระทะ ทำให้เส้นฝอยทองเป็นเส้นกลมสวย
    หากน้ำเชื่อมเริ่มข้นมากเกินไปให้เติมน้ำ แล้วรอให้เดือดก่อนจึงโรยฝอยทองครั้งต่อไป
    การทำขนมเครื่องไข่สามารถใช้น้ำเชื่อมต่อกันได้ โดยเรียงลำดับจากความเข้มข้นของน้ำเชื่อมน้อยไปมาก คือ ฝอยทอง เม็ดขนุน ทองหยิบ ไข่แมงดา และทองหยอด



ขั้นตอนการทำฝอยทอง

1.                                     เตรียมไข่โดยล้างไข่ให้สะอาด เช็ดด้วยผ้าแห้งสนิท ต่อยไข่ไก่และไข่เป็ดใส่ภาชนะ (เก็บเปลือกไข่ไว้สำหรับฟอกน้ำเชื่อม) ในขณะที่ต่อยไข่ทุกฟองให้แยกไข่น้ำค้างเก็บใส่ถ้วยไว้ (ไข่น้ำค้าง คือ ไข่ขาวของไข่ไก่หรือไข่เป็ดที่เป็นน้ำใสๆ ที่ติดเปลือกไข่ด้านป้าน โดยเวลาต่อยไข่แต่ละฟองใส่ภาชนะ เมื่อไข่ขาวที่เกาะตัวกันเป็นยวงลงไปแล้วให้รีบหงายเปลือกไข่ขึ้นเพื่อให้ไข่น้ำค้างยังอยู่  เพราะไข่น้ำค้างจะมีปริมาณเล็กน้อยในไข่แต่ละฟอง นำมาผสมกับไข่แดงเพื่อให้ไข่แดงเหนียงโรยเป็นเส้นได้สวย)  แล้วใช้มือทั้งสองช้อนแยกเอาเฉพาะไข่แดงขึ้นมา คือ ค่อยๆ ใช้นิ้วรีดไข่ขาวออกจากไข่แดงแล้วรีดเอาเยื่อหุ้มไข่แดงออกจนหมด (ไข่ขาวเก็บไว้ทำขนมอื่นๆ เช่น สังขยา ขนมโสมนัส ขนมเห็ดโคน ขนมหม้อแกง)

2.                                     ผสมไข่แดงและไข่ดาวแค่พอเข้ากันในชามแก้ว ระวังอย่าคนมากจนขึ้นฟอง ไข่จะโรยไม่เป็นเส้น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางโดยใช้นิ้วบิดผ้าให้ไข่ไหลลงมาใส่ภาชนะ กรองทั้งหมด 2 ครั้ง หรือใช้ผ้าขาวบางพับซ้อนกัน 2-3 ชั้น ปิดฝาหรือพลาสติกแรปไว้ เพื่อไม่ให้ไข่แห้ง


3.                                     ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลกับเปลือกไข่ลงในกระทะทอง แล้วใช้มือขยำเปลือกไข่กับน้ำตาลรวมกันให้เปลือกไข่แตกจึงใส่น้ำหรือน้ำลอยดอกมะลิและใบเตยลงไป ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ใช้พายไม้คนแค่พอน้ำตาลละลาย พอน้ำเชื่อมเดือดเคี่ยวต่อสักครู่ นานประมาณ 10-15 นาที จนน้ำเชื่อมใส ยกลง กรองน้ำเชื่อมด้วยผ้าขาวบาง ใส่ภาชนะไว้ จากนั้นใส่น้ำเชื่อมลงกระทะทองใบเดิมที่ล้างสะอาดแล้ว ยกกระทะขึ้นตั้งบนไฟกลางอีกครั้ง รอจนน้ำเชื่อมเดือดทั่ว (ระหว่างเคี่ยวถ้ามีฟองให้หมั่นช้อนออกเพื่อให้น้ำเชื่อมใส) ใช้กระบวยตักแบ่งน้ำเชื่อมออกมาประมาณ 1 ถ้วย สำหรับใช้เป็นน้ำเชื่อมใส เคี่ยวต่อจนน้ำเชื่อมที่เหลือข้นเล็กน้อย น้ำเชื่อมเดือดปุดๆ เป็นฟองใหญ่ตรงกลางกระทะ

4.                                     วิธีโรยฝอยทองทำโดยลดไฟจนน้ำเชื่อมในกระทะข้นได้ที่เดือดทั่วกระทะ จากนั้นใช้นิ้วชี้ และ นิ้วกลางอุดตรงปลายกรวยไว้ไม่ให้ไข่ไหลออกมาแล้วจึงตักไข่แดงที่เตรียมไว้ลงในกรวย เปิดนิ้วโรยไข่ลงไปตรงน้ำเชื่อให้เป็นวงกลมประมาณ 25-30 รอบ หรือได้มากพอตามความต้องการแล้วจึงใช้นิ้วปิดรู วางกรวยพักไว้ในถ้วย รอให้ไข่สุกสักครู่ นานประมาณ 30 วินาที จึงไปจับลูกฝอยทอง เมื่อนำเส้นฝอยทองขึ้นแล้วจึงใส่น้ำประมาณ ¼  ถ้วย เพื่อให้น้ำเชื่อมหยุดเดือดและไม่ให้น้ำเชื่อมข้นเกินไป
5.                                     วิธีจับลูกฝอยทองทำโดยใช้ตะเกียบหรือไม้ปลายแหลมช้อนเส้นไข่ (เส้นฝอยทอง) ที่โรยตรงกลางในกระทะน้ำเชื่อมให้เส้นฝอยทองไปรวมกันข้างกระทะข้างเดียว จากนั้นช้อนเส้นฝอยทองไปมาในน้ำเชื่อมประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อให้เส้นฝอยทองเรียงกันเป็นแพสวยและสุกทั่ว เส้นที่สุกจะใสไม่ขุ่น แล้วช้อนเส้นฝอยทองขึ้นจากน้ำเชื่อมในกระทะมาแกว่งไปมาในน้ำเชื่อมใสที่แบ่งไว้อีกครั้ง เพื่อล้างน้ำเชื่อมออก เส้นฝอยทองจะเป็นเงาสวย น้ำเชื่อไม่ตกผลึกแข็ง แล้วยกขึ้นมาวางบนตะแกรงให้เป็นแพและน้ำเชื่อมไหลออกบ้าง หรือยกขึ้นมาจับเป็นลูก โดยใช้ตะเกียบหรือไม้ปลายแหลมอีกอันที่มีขนาดเท่ากันช่วยช้อนส่วนปลายเส้นไข่ให้พับเข้ามาหาส่วนต้น แล้วพับส่วนต้นให้ทับส่วนเส้นฝอยทองที่ยุ่งเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 1½  นิ้ว ยาว 2 นิ้ว พอน้ำเชื่อมเดือดอีกครั้งจึงโรยไข่แดงลงในน้ำเชื่อม ทำเช่นนี้จนหมดไข่แดงที่เตรียมไว้ พักไว้ให้เย็น จัดใส่ภาชนะอบด้วยดอกมะลิ

6.                                     จัดใส่จาน ราดน้ำเชื่อมใสเล็กน้อย เพื่อให้เส้นฝอยทองเป็นเงาสวย

หมายเหตุ
ฝอยทองกรอบทำเช่นเดียวกันแต่โรยไข่ในน้ำเชื่อมข้นๆ เมื่อเน็นน้ำเชื่อมจะแพ้งเป็นเกล็ด เส้นฝอยทองจะแข็งและกรอบ แต่ต้องวางเส้นฝอยทองบนตะแกรงให้น้ำเชื่อมไหลออก มิฉะนั้นน้ำตาลจะจับเส้นมากเกินไป ฝอยทองกรอบนิยมดึงเส้นให้กระจายออกแล้วจึงจับเป็นกองๆ

ขนมช่อม่วง



ขนมช่อม่วง
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า                                                           ¾ ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน อย่างละ                     1 ช้อนชา
แป้งเท้ายายม่อม                                                  1 ช้อนชา
น้ำดอกอัญชัน                                                      ¾ ถ้วย
น้ำมะนาว                                                             1 ½  ช้อนชา
น้ำมันพืช                                                              1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมันสำหรับทำแป้งนวล                               3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้าสำหรับทำแป้งนวล                        2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันกระเทียมเจียว                                           ¼ ถ้วย
ผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนูสด และกระเทียมเจียวสำหรับกินแนม

อุปกรณ์เฉพาะ
แหนบสำหรับจีบ, ใบตองสำหรับรองนึ่ง, ลังถึง

ไส้
หอมแดงเจียว กระเทียมเจียว อย่างละ            2 ช้อนโต๊ะ
ฟักเชื่อมแห้งหั่นลูกเต๋าเล็ก                               ¼ ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วโขลกหยาบ                                         3 ช้อนโต๊ะ
กากหมูหั่นเต๋าเล็ก                                               3 ช้อนโต๊ะ
งาดำคั่วบุบพอแตก                                              1 ช้อนโต๊ะ
งาขาวคั่วบุบพอแตก                                            2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนชา เกลือสมุทร           ½ ช้อนชา

ลักษณะที่ดี
    ควรมีสีอ่อนเย็นตา กลีบดอกจีบเรียงกันอย่างประณีต ขนมไม่ควรติดกันเมื่อพักไว้
    แป้งนุ่มไม่เหนียวมาก ไส้หวานกำลังดี หอมกลิ่นงา

ข้อควรรู้
    เตรียมน้ำดอกอัญชันโดยล้างดอกอัญชันประมาณ 4 ดอกให้สะอาด แกะกลีบดอกแช่ในน้ำร้อน ¾  ถ้วย จนได้สีน้ำเงินเข้ม บีบมะนาวลงไปประมาณ ช้อนชา คนให้เข้ากันจนเป็นสีม่วง
     ถ้าต้องการช่อม่วงที่ผสมสองสีให้กวนแป้งอีกส่วนโดยให้เปลี่ยนจากน้ำดอกอัญชันเป็นน้ำ สำหรับเวลาปั้นแป้งเป็นก้อนกลมให้นำแป้งสีม่วงมาผสมกับสีขาวปั้นให้เป็นก้อนกลม แล้วนำไปจีบเป็นช่อม่วง
     
ขั้นตอนการทำขนมช่อม่วง
1.                                     ทำไส้โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใสในชามผสม คนให้เข้ากัน เตรียมไว้

2.                                     ทำแป้งโดยใส่แป้งทั้งหมดลงในกระทะทอง ค่อยๆ ใส่น้ำดอกอัญชันที่ผลมน้ำมะนาวลงไป ใช้พายไม้คนอย่าให้แป้งเป็นก้อน ยกมือตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอแป้งเริ่มข้นจึงลดเป็นไฟอ่อน ใส่น้ำมันลงไปแล้วกวนต่อจนแป้งสุก ทดสอบโดยเมื่อใช้นิ้วแตะแล้วไม่ติดมือ ปิดไฟ ตักใส่จานที่โรยแป้งนวลบางๆ ไว้ นวดแป้งจนนุ่มเนียนและไม่ติดมือ(ขณะนวดแป้งถ้าแป้งติดมือให้โรยแป้งนวลเพิ่มได้ ส่วนแป้งนวลที่เหลือจะเก็บไว้ใช้ตอนจีบกลีบดอก)  ใช้ผ้าขาวบางคุลมแป้ง พักไว้

3.                                     ใส่น้ำในหม้อลงถึง ¾  ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางให้เดือด เตรียมไว้ ปั้นขนมช่อม่วงโดยนำแป้งที่กวนมาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ซม. แล้วกดให้แบนเป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ตักไส้ใส่ตรงกลางแป้งประมาณ ½ ช้อนชา ห่อให้มิด ให้แหนบจุ่มลงในแป้งนวลที่เหลือ เคาะให้แป้งติดแหนบบางๆ จีบกลีบให้รอบ (ขณะที่จีบแล้วแป้งเริ่มติดแหนบให้จุ่มแหนบลงในแป้งนวลแล้วเคาะออกเช่นเดิม ทำเช่นนี้จนเสร็จ)  จีบแต่ละชั้นให้สับหว่างกัน ชั้นล่างสุดจะจีบประมาณ 5-6 กลีบ ด้านบนสุดจะจีบประมาณ 2-3 จีบ (เวลาจีบพยายามอย่าให้นิ้วโดนแป้งส่วนที่จีบไปแล้ว)  นำไปวางเรียงในชั้นลังถึงที่ปูใบตองและทาน้ำมันเตรียมไว้ นึ่งนานประมาณ 3-5 นาที หรือรอจนกว่าแป้งจะสุก ยกลง พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว

4.                                     จัดใส่จาน รับประทานกับผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนูสด และกระเทียมเจียว